การสอนทักษะการฟัง
เทคนิควิธีปฏิบัติ
สิ่งสำคัญที่ครูผ็สอนควรพิจารณาในการสอนทักษะการฟัง มี 2 ประการ คือ
1.1 สถานการณ์ ในการฟัง สถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการฟังภาษาอังกฤษได้นั้น ควรเป็นสถานการณ์ของการฟังที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง สถานการณ์จริง หรือ สถานการณ์จำลองในห้องเรียน ซึ่งอาจเป็น การฟังคำสั่งครู การฟังเพื่อนสนทนา การฟังบทสนทนาจากบทเรียน วีดิทัศน์ ฯลฯ
1.2 กิจกรรมในการสอนฟัง ซึ่งแบ่งเป็น 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมนำเข้าสู่การฟัง (Pre-listening) กิจกรรมระหว่างการฟัง หรือ ขณะที่สอนฟัง (While-listening) กิจกรรมหลังการฟัง (Post-listening)
แต่ละกิจกรรมอาจใช้เทคนิค ดังนี้
1) กิจกรรมนำเข้าสู่การฟัง ( Pre-listening) การ ที่ผู้เรียนจะฟังสารได้อย่างเข้าใจ ควรต้องมีข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับสารที่ได้รับฟัง โดยครูผู้สอนอาจใช้กิจกรรมนำให้ผู้เรียนได้มีข้อมูลบางส่วนเพื่อช่วยสร้าง ความเข้าใจในบริบท ก่อนการรับฟังสารที่กำหนดให้ เช่น การใช้รูปภาพ อาจให้ผู้เรียนดูรูปภาพที่เกี่ยวกับเรื่องที่จะได้ฟัง สนทนา หรือ อภิปราย หรือ หาคำตอบเกี่ยวกับภาพนั้น ๆการเขียนรายการคำศัพท์ อาจให้ผู้เรียนจัดทำรายการคำศัพท์เดิมที่รู้จัก โดยใช้วิธีการเขียนบันทึกคำศัพท์ที่ได้ยินขณะรับฟังสาร หรือการขีดเส้นใต้ หรือวงกลมล้อมรอบคำศัพท์ในสารที่อ่านและรับฟังไปพร้อมๆกันการอ่านคำถาม
2) กิจกรรมระหว่างการฟัง หรือ กิจกรรมขณะที่สอนฟัง (While-listening) เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติในขณะที่รับฟังสารนั้น กิจกรรมนี้มิใช่การทดสอบการฟัง แต่เป็นการ “ฝึกทักษะการฟังเพื่อความเข้าใจ” กิจกรรมระหว่างการฟังนี้ ไม่ควรจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติทักษะอื่นๆ เช่น อ่าน หรือ เขียน หรือ พูด มากนัก
3) กิจกรรมหลังการฟัง (Post-listening) เป็น กิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ภาษาภายหลังที่ได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรม ระหว่างการฟังแล้ว เช่น อาจฝึกทักษะการเขียน สำหรับผู้เรียนระดับต้น โดยให้เขียนตามคำบอก (Dictation) ประโยคที่ได้ฟังมา แล้ว เป็นการตรวจสอบความรู้ ความถูกต้องของการเขียนคำศัพท์ สำนวน โครงสร้างไวยากรณ์ ของประโยคนั้น หรือฝึกทักษะการพูด สำหรับผู้เรียนระดับสูง โดยการให้อภิปรายเกี่ยวกับสารที่ได้ฟัง หรืออภิปรายเกี่ยวกับอารมณ์หรือเจตคติของผู้พูด เป็นต้น
ทักษะการฟังที่ดีสามารถจะเรียนได้ง่ายๆ
1 หยุดพูด หากปากและหูของคุณจะต้องได้รับในส่วนที่รบกวน เมื่อคนอื่นจะพูดให้คนที่สนใจเต็มของคุณ อย่าขัดจังหวะยกเว้นที่จะถามคำถามสั้น ๆ สำหรับคำชี้แจงหรือเพื่อให้เห็นพ้องเสียงเช่น"ฮะ", "Oh!" หรือ "HM."
2 ยืนยันสิ่งที่คุณได้ยิน เมื่อคน ๆ นั้นหยุดพูดซ้ำกลับมาอยู่ในคำของคุณเองสิ่งที่คุณคิดว่าคุณได้ยิน เป็นสิ่งที่ตั้งใจ ถ้าไม่อนุญาตให้บุคคลที่จะอธิบายความคิดหลักต่อไปและลองอีกครั้ง จนกว่าเห็นด้วย นี้อาจใช้เวลาผ่านไม่นานโดยเฉพาะถ้าความขัดแย้งมีส่วนเกี่ยวข้อง
3 อดใจ หลีกเลี่ยงสิ่งล่อใจให้เสร็จสิ้นประโยคของคนอื่น ๆ สำหรับพวกเขา ให้พวกเขามีโอกาสที่จะพูดในสิ่งที่พวกเขาหมายถึงแม้ว่าพวกเขาจะพูดติดอ่างหยุดชั่วคราวหรือเปลี่ยนเกียร์ด้วยวาจา
4 เปลี่ยนเส้นทางที่จะมุ่งเน้นในขณะที่สัปหงก หัวสัมผัสลงที่ถนนนาฬิกาสำหรับขับกล่อมและพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหัวข้อที่เป็นต้นฉบับ :
5 ใช้ภาษากายเพื่อสนับสนุนทักษะการฟังของคุณ นำผู้ฟังที่ก่อให้เกิด
6 เมื่อเสร็จสิ้นการพูดถามคำถามตามความจำเป็น จดคำตอบให้คุณสามารถนำข้อมูลที่จำเป็นกับคุณ
7 จัดให้มีการติดตามรายละเอียด หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าคุณสามารถส่งอีเมลคำขอหรือโทรศัพท์เมื่อเวลาของบุคคลที่ไม่ว่าง คุณอาจต้องการที่จะแลกเปลี่ยนนามบัตร
8 รักษามารยาทแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วย ไม่เคยขัดคอ, โต้เถียงกับหรือพูดจาโผงผางกับลำโพงที่ไม่ว่าสิ่งที่จะกล่าวว่าไม่มี บันทึกความคิดเห็นของคุณสำหรับการประชุมที่เป็นส่วนตัว สุภาพและเคารพและเต็มได้ยินคนออกมา คุณจะทำให้ตัวเองดูไม่ดีถ้าคุณตอบสนองในลักษณะทางอารมณ์หรือที่ไม่เหมาะสม
6 เมื่อเสร็จสิ้นการพูดถามคำถามตามความจำเป็น จดคำตอบให้คุณสามารถนำข้อมูลที่จำเป็นกับคุณ
7 จัดให้มีการติดตามรายละเอียด หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าคุณสามารถส่งอีเมลคำขอหรือโทรศัพท์เมื่อเวลาของบุคคลที่ไม่ว่าง คุณอาจต้องการที่จะแลกเปลี่ยนนามบัตร
8 รักษามารยาทแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วย ไม่เคยขัดคอ, โต้เถียงกับหรือพูดจาโผงผางกับลำโพงที่ไม่ว่าสิ่งที่จะกล่าวว่าไม่มี บันทึกความคิดเห็นของคุณสำหรับการประชุมที่เป็นส่วนตัว สุภาพและเคารพและเต็มได้ยินคนออกมา คุณจะทำให้ตัวเองดูไม่ดีถ้าคุณตอบสนองในลักษณะทางอารมณ์หรือที่ไม่เหมาะสม
My opinion
I
think listening is
the first skill of a foreign language
teaching and it is the easiest Teaching skill. Thai children
often have a problem about listening
skills because they are not
trained to listen and do not apply to real
life. As
a result, the students' lack of listening skills. One of problem may be due to
the school where has not developed or has not enough budget to employ teachers
who are native speakers. So English course, students
will learn English with Thai teacher
who teach pronunciation, which is
not same. Therefore,
students need to
learn and listen to the sounds of the native
language he will make it cool to listen to the
media that the messenger has not understood
or not understood
at all. From the problem was a result of teaching listening skills
to achieve success. However, we will develop listening
skills that can be several ways, such as listening to English music, watching English
movie, including news from various websites. The
above approach are the primary way
that I think can
be used to improve and develop
better listening skills to be able to use
listening skills to build on the skills of
the four skills further.